การวางแผนการลงทุนเป็นอีกหนึ่งหัวข้อของหนุ่มสาวยุคปัจจุบันนี้ เนื่องจากพวกเค้าต้องการมีเงินทองสำหรับใช้ยามเกษียณ หรือ รีไทร์ตัวเองจากการทำงาน แต่การลงทุนก็ต้องมีการวางแผนด้วยไม่งั้นการลงทุนก็เหมือนกับเอาเงินไปละลายแม่น้ำนั่นเอง มาดูกันว่าการวางแผนการลงทุน ควรพิจารณาอะไรบ้าง
ทุนตั้งต้น
ขึ้นชื่อว่าการลงทุน เรื่องของทุนในการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องรู้ตัวเองก่อนว่าเราจะลงทุนเท่าไร เป็นเงินก้อนกี่บาท หรือจะเติมเงินลงทุนเข้าไปเดือนละเท่าไร จนกลายปีละกี่บาท ซึ่งจำนวนเงินลงทุนนี้จะเป็นตัวบอกขั้นตอนต่อไปของเราด้วยว่า เราจะลงทุนแบบไหน ลงทุนด้วยเวลาเท่าไร คุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ เรื่องนี้ทุนจะเป็นตัวบอก
ระยะเวลาคืนทุน
เมื่อได้ทุนแล้ว ก็ต้องมาดูกันด้วยว่าระยะเวลาด้วยการคืนทุน เหมาะสมหรือไม่ การลงทุนบางอย่างมีระยะเวลาการลงทุนเหมาะสม แต่บางอย่างกลับใช้เวลานานเกินไป ซึ่งมันอาจจะทำให้ไม่คุ้มทุนเท่าไรนัก เราเองในฐานะนักลงทุนต้องศึกษาให้ดีเพื่อให้เงินลงทุนนั้นอยู่ในช่วงเวลาคืนทุนเหมาะสมกับเรา
เวลาในการบริหาร
การลงทุนนั้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนรูปแบบไหนก็ตาม เราก็ต้องมีเจียดเวลาในการบริหารการลงทุนนั้นด้วย เราต้องพิจารณาก่อนด้วยว่าตัวเรานั้นมีเวลาในการบริหารจัดการการลงทุนนั้นหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน หากเรามีเวลาน้อยก็อาจจะต้องใช้การลงทุนที่เสี่ยงน้อย แต่ได้รับผลตอบแทนต่ำด้วย แต่ถ้ามีเวลาในการบริหารจัดการมากหน่อยก็อาจจะขยับมาการลงทุคนความเสี่ยงสูงแต่ได้รับผลตอบแทนสูงขึ้นได้ รวมถึงต้องเลือกการลงทุนที่สามารถโยกย้ายเปลี่ยนแปลงได้ง่ายด้วย
ความเสี่ยงการลงทุน
การลงทุนมีความเสี่ยง คำนี้เรามักจะได้ยินกันเป็นประจำ แต่อย่าลืมว่าการไม่ลงทุนก็มีความเสี่ยงด้วยเหมือนกัน ในเมื่องจะลงทุนหรือไม่ลงทุนเราก็เจอความเสี่ยงเหมือนกัน งั้นเราเลือกลงทุนเพื่อเจอความเสี่ยงดีกว่าไหม คำว่าความเสี่ยงในการลงทุนนั้นเราเจออยู่แล้วหากเราคิดจะลงทุน ต้องมาดูกันว่าแนวทางการลงทุนของเรานั้นมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน แล้วเรารับความเสี่ยงได้มากแค่ไหนด้วย หากเรารับได้ พร้อมจะเจอแล้วก็ลงทุนได้เลย ตรงนี้พิจารณาให้ดี เพราะไม่ว่าจะลงทุนอะไรก็ตาม หรือไม่ลงทุน ต่างก็ต้องเจอความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น
อนาคตและเป้าหมาย
หัวข้อต่อไปให้ไปพิจารณากันหากต้องวางแผนการลงทุนนั่นคือ อนาคตและเป้าหมายของเราว่าอยู่ตรงไหน บางคนอาจจะต้องการเป้าหมายระยะสั้น 3-5 ปี แต่บางคนอาจจะต้องการวางอนาคตและเป้าหมายระยะยาวเป็น 10-20ปี ก็อาจจะต้องวางแผนการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง ตามความต้องการแตกต่างกันไป รู้อย่างนี้แล้วลองไปวางแผนการลงทุนเพื่ออนาคตของตัวเองกันเถอะ