หากมองในภาพรวมทุกคนก็พอจะเข้าใจกันแบบง่ายๆ ว่าการลงทุนระหว่างประเทศเป็นการลงทุนโดยมีอย่างน้อย 2 ประเทศทำการตกลงกันเรื่องทางการค้าเพื่อผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ ผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ หรือเพื่อการยกระดับประเทศอะไรก็ตามแต่ ทว่าหลักๆ ของการลงทุนระหว่างประเทศจะประกอบไปด้วยการลงทุนอยู่ 2 รูปแบบ คือ การลงทุนทางตรงกับการลงทุนทางอ้อม ว่าแต่การลงทุนทั้ง 2 แบบนี้มีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง มาทำความเข้าใจกันดูเพื่อที่จะเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น
การลงทุนระหว่างประเทศ
- การลงทุนทางตรง – ความหมายก็ค่อนข้างที่จะตรงตัวชัดเจนมันคือการลงทุนด้วยการที่เอาทุนจากประเทศหนึ่งไปให้กับอีกประเทศหนึ่งเป็นการลงทุนโดยหวังว่าการเอาทุนมาลงจะทำให้เกิดผลประโยชน์มากที่สุดแบบตรงๆ โดยเจ้าของทุนตรงนี้ยังมีอำนาจที่ชัดเจนเกี่ยวกับการนำทุนก้อนนั้นไปใช้ประโยชน์ตามที่พวกเขาต้องการ พูดง่ายๆ ว่าเหมือนกับการเอาเงินของตัวเองมาสร้างกิจการแล้วเข้าไปดูแล ส่วนมากมักลงทุนในระบบบรรษัทข้ามชาติ สมัคร betflik บริษัทแม่จะยังคงอยู่ที่ประเทศของผู้ลงทุนแล้วก็แบ่งแยกย่อยสาขาต่างๆ ออกไปตามแต่ละประเทศ ซึ่งพวกที่ลงทุนในลักษณะนี้มักจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มีบริษัทใหญ่โต โดยมากมักมาจากประเทศมหาอำนาจต่างๆ อาทิ สหรัฐฯ, เยอรมัน, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส เป็นต้น ส่วนเรื่องที่เข้ามาลงทุนก็ค่อนข้างมีหลากหลาย อาทิ สถาบันการเงิน, น้ำมัน, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องมือสื่อสาร, อาหาร, ห้างสรรพสินค้า, ยานยนต์ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยหลักที่เกิดการลงทุนทางตรงจะต้องมีประเทศเจ้าของทุนและประเทศผู้รับทุนขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างประเทศเหล่านี้หากมองว่าได้รับความพึงพอใจทั้ง 2 ฝ่ายก็ไม่ใช่ปัญหาในการที่จะมาทำการลงทุนร่วมกัน
- การลงทุนทางอ้อม – เรียกอีกอย่างว่าเป็นการลงทุนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการเงินเป็นหลัก ส่วนมากจะมาในรูปแบบของการซื้อตราสารต่างๆ ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ ไม่ว่าจะเป็นแบบพันธบัตรหรือตั๋วเงินก็ตาม นอกจากนี้เรื่องของการกู้เงินจากต่างประเทศทั้งระยะสั้นและระยะยาวก็ถือว่าเป็นการลงทุนทางอ้อมเช่นกัน โดยผู้ที่ลงทุนจะไม่สามารถเข้ามาบริหารจัดการได้เหมือนกับการลงทุนทางตรง ส่วนมากผู้ลงทุนในแบบทางอ้อมนี้จะเป็นแนวปัจเจกบุคคล หรืออาจมาในรูปแบบของกองทุนประเภทต่างๆ ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เกิดการลงทุนเกี่ยวกับทรัพย์สินทางการเงินก็มาจาก ผู้ที่ลงทุนเองต้องการหาผลตอบแทนที่ดีที่สุดในการลงทุน อย่างไรก็ตามการลงทุนด้วยการซื้อสินทรัพย์ด้านการเงินจะค่อนข้างมีความเสี่ยงสูงมาก ตรงจุดนี้นักลงทุนเองก็มักจะคำนวณเรื่องความเสี่ยงที่เกิดขึ้นด้วย ไม่ได้แค่คิดแต่เรื่องของผลกำไรเพียงอย่างเดียว