เมื่อพูดถึงการลงทุนทางการเงิน การตัดสินใจที่ดีกว่านั้นขึ้นอยู่กับโอกาสเท่านั้น นอกจากการเล่นการพนันจะทำงานได้ก็ต่อเมื่อโชคดีอยู่ข้างคุณ โชคดีที่การลงทุนระหว่างประเทศเป็นรูปแบบการลงทุนทางการเงินที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ตราบใดที่ทราบข้อจำกัด ใครก็ตามที่ลงทุนก็ย่อมหวังที่จะได้รับผลตอบแทน แต่การลงทุนระหว่างประเทศเป็นการลงทุนในสเกลที่ใหญ่กว่า ซึ่งมีผลกระทบกับอะไรหลายๆ อย่าง
อะไรคือการลงทุนระหว่างประเทศ
การลงทุนระหว่างประเทศ คือการที่ประเทศใดประเทศหนึ่งได้นำเงินของตนไปลงทุนในอีกประเทศ เพื่อหวังว่าจะสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า ซึ่งแบ่งออกเป็นการลงทุนได้ 2 ประเภท ได้แก่
- การลงทุนโดยตรง (Direct Investment) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) หมายถึงการลงทุนในองค์กรธุรกิจต่างประเทศ ที่ออกแบบมาเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการควบคุมองค์กรนี้ การลงทุนโดยตรงให้เงินทุนกับบริษัทเพื่อแลกเปลี่ยนกับส่วนของผู้ถือหุ้น โดยไม่ต้องซื้อหุ้นสามัญของหุ้นของ บริษัท วัตถุประสงค์ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ คือการได้รับส่วนได้เสียเพียงพอที่จะควบคุมบริษัท ในบางกรณีอาจเกี่ยวข้องกับบริษัทในประเทศหนึ่งที่เปิดธุรกิจในประเทศอื่น ในขณะที่ในบางกรณีอาจเป็นการได้มาซึ่งการควบคุมสินทรัพย์ที่มีอยู่ของธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ
- การลงทุนโดยอ้อม เป็นการลงทุนในรูปแบบของกลุ่ม (พอร์ตโฟลิโอ) ของสินทรัพย์ รวมถึงการทำธุรกรรมในส่วนของหลักทรัพย์หลักทรัพย์ เช่น หุ้นสามัญ และตราสารหนี้ เช่น ธนบัตรพันธบัตร และหุ้นกู้ เป็นการลงทุนในแบบพาสซีฟเนื่องจากไม่มีการบริหารจัดการหรือควบคุมบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ นักลงทุนต่างชาติอาจมีความสนใจในระยะสั้นในการเป็นเจ้าของการลงทุนแบบพาสซีฟ เช่นพันธบัตร หรือ หุ้น แต่วัตถุประสงค์ของการลงทุนนั้นเป็นเพียงผลประโยชน์ทางการเงินเท่า นั้นตรงกันข้ามกับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ซึ่งอนุญาตให้นักลงทุนได้รับส่วนในการควบคุมระดับบริหารของบริษัท สำหรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศการลงทุนในตราสารทุนที่เจ้าของถือหุ้นน้อยกว่า 10% ของบริษัทจะถูกจัดประเภทเป็นพอร์ตการลงทุน ธุรกรรมเหล่านี้เรียกว่า ‘โฟลว์พอร์ตโฟลิโอ’
ความเสี่ยงในการลงทุนระหว่างประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนรูปแบบใดก็ย่อมมีความเสี่ยง ประโยชน์ของประเทศผู้รับทุนคือ ‘มีเงินทุนมาใช้ในการพัฒนาประเทศ’ ซึ่งหลายคนก็ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่ามันได้ประโยชน์จริงหรือ เราลองมาดูประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในต่างประเทศกันดีกว่า
1.มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น เพราะเมื่อมีเงินทุนเข้ามาในประเทศ จะทำให้มีการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ มีการสร้างโรงงานใหม่และรับแรงงานเพิ่มขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วนักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้เครื่องจักรอัตโนมัติมากกว่าแรงงานคนที่มีค่าใช้จ่ายสูง
2.เมื่อลงทุนในประเทศอื่น หากเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ประเทศจะมีกำลังซื้อมากขึ้น สิ่งนี้จะช่วยให้นักลงทุนต่างชาติสามารถควบคุมหุ้นพันธบัตร และการถือครองอสังหาริมทรัพย์ได้มากกว่า เมื่อเทียบกับการลงทุนเงินจำนวนเดียวกัน
3.เกิดความผันผวนทางเศรษฐกิจ การพึงพาทุนจากต่างชาติมากเกินไป อาจเป็นภัยที่อันตรายอย่างคาดไม่ถึง เมื่อเจ้าของทุนได้ถอนทุนออกจากประเทศ อาจทำให้เศรษฐกิจหยุดการเติบโต หรือร้ายสุดอาจมีการถดถอยลงด้วย ในทางตรงกันข้ามถ้ามีการลงทุนมากเกินไปจากต่างประเทศ ก็อาจก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อได้เช่นกัน
4.ส่งผลกระทบกับนักลงทุนในประเทศ ทุนส่วนใหญ่ที่มาจากต่างประเทศ ล้วนมาจากบริษัทใหญ่ที่มีอำนาจมากกว่านักลงทุนท้องถิ่น ซึ่งอาจเข้ามาผูกขาดตลาดในประเทศ ยกตัวอย่างห้างสรรสินค้าชื่อดังหลายแห่งที่เปิดในประเทศไทย ซึ่งล้วนแต่มีนายทุนต่างชาติเป็นผู้มีผลประโยชน์หลักแทบทั้งสิ้น
5.การแชร์เทคโนโลยี หลายคนคิดว่าต่างชาติจะมาลงทุนพร้อมกับแชร์นวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วพวกเก็บรักษาเทคโนโลยีของตัวเองไว้ที่ประเทศของตน แต่จะมาเน้นในเรื่องแรงงานการผลิตแทนมากกว่า